Tuesday, September 11, 2007

รัชกาลที่ ๒ กษัตริย์กวี ผู้อื้อฉาวเรื่องโลกีย์


เจ้าฟ้าฉิมได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อมา และแต่งตั้งเจ้าฟ้าบุญรอดให้เป็นราชินีของพระองค์ รุ่งวันใหม่ของการเป็นกษัตริย์ก็มิใช่ว่าจะเป็นวันมงคลอะไร ที่จะห้ามไม่ให้พวกศักดินาเข่นฆ่าเพื่อแย่งความเป็นใหญ่กัน เพราะพอรัชกาลที่ ๒ ขึ้นนั่งเมืองได้เพียง ๓ วัน พระองค์ก็ทรงบัญชาให้จับเจ้าฟ้าสุพันธวงศ์ หลานรัชกาลที่ ๑ และพรรคพวกไปฆ่าร้อยกว่าคน โดยกล่าวโทษว่าพวกนี้คิดจะกบฏ ขณะเดียวกันพวกศักดินาที่บันทึกพงศาวดาร ซึ่งอยากจะยกย่องรัชกาลที่ ๒ เต็มแก่ ก็ได้แต่งนิยายหลอกเด็กว่า รัชกาลที่ ๒ รู้ว่าเจ้าฟ้าสุพันธวงศ์จะเป็นกบฏนั้นก็เพราะมีกาดำคาบหนังสือแจ้งรายชื่อพวกคิดร้ายต่อกษัตริย์ มาทิ้งในวังหลวง(๑) ทำนองสร้างเรื่องให้คนเชื่อว่า กษัตริย์มีบุญญาธิการเป็นล้นพ้น กระทั่งกาดำสัตว์ชั้นต่ำก็ยังจงรักภักดี คาบข่าวมาทูลให้ทราบเหตุเภทภัย เรื่องพรรค์อย่างนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหลอกคนไปได้สักกี่น้ำ

กลับมาเรื่องคาวๆฉาวโฉ่ ใช่ว่าชราแล้วจะลดลงบ้าง ทำเอาเจ้าฟ้าบุญรอดต้องทุกข์ระทมในบั้นปลายชีวิต เพราะรัชกาลที่ ๒ ก็เหมือนกับพ่อ คือเป็นผู้มักมากในกามคุณพอได้เมียสาวก็มักจะลืมเมียหลวง กล่าวคืออยู่มาวันหนึ่ง รัชกาลที่ ๒ ไปเห็นเอาเจ้าฟ้ากุณฑล น้องสาวคนละแม่ของตนเอง ซึ่งมีอายุเพียง ๑๘-๑๙ ปีเข้า ก็มีจิตพิศวาส จึงยกขึ้นเป็นมเหสีข้างซ้าย เคียงคู่เจ้าฟ้าบุญรอด มเหสีข้างขวา เจ้าฟ้ากุณฑลมีอายุอ่อนกว่าเจ้าฟ้าบุญรอดถึง ๓๐ ปี รัชกาลที่ ๒ จึงลุ่มหลงเป็นนักหนา ตามประสาโคเฒ่ากับหญ้าอ่อนในที่สุดเจ้าฟ้าบุญรอดก็ทนเห็นภาพบาดใจต่อไปมิได้ จึงหนีออกจากวังหลวง ไปอยู่ที่พระราชวังเดิมธนบุรี ไม่ยอมเข้าเฝ้ารัชกาลที่ ๒ อีก(๒)

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว ต้องกล่าวว่า เจ้าฟ้าบุญรอดนั้นยังมีชะตากรรมดีกว่าพระชนนีของรัชกาลที่ ๒ คือมเหสีของรัชกาลที่ ๑ มาก พระชนนีของรัชกาลที่ ๒ ถึงกับเคยต้องเจ็บช้ำน้ำใจเพราะถูกพระสวามีที่หน้ามืดตามัว หลงอิสตรีวัยรุ่น วิ่งไล่ฟันด้วยดาบมาแล้ว สาเหตุที่รัชกาลที่ ๑ โกรธพระมเหสีถึงกับจะลงไม้ลงมือ ก็เพราะว่าคืนหนึ่ง ขณะที่รัชกาลที่ ๑ เมื่อครั้งเป็นขุนนางเมืองธนบุรี นอนเปล่าเปลี่ยวใจอยู่คนเดียวนั้น ไม่อาจทนราคะจริตอยู่ได้ เพราะพระมเหสีในขณะนั้นไปนอนอยู่กับบุตรสาวในวังพระเจ้าตากสิน จึงวางแผนจะเรียกเด็กสาวลาวผู้หนึ่ง ซึ่งต่อมาเป็นเจ้าจอมแว่น ให้เข้าไปหาในห้องนอน เพื่อหวังจะเผด็จสวาท แต่พระมเหสีรู้ข่าวเข้าเสียก่อน จึงเอาไม้ตีเด็กนั้นเพราะความหึงหวง รัชกาลที่ ๑ พอรู้เข้าก็โกรธจัด คว้าดาบไล่ไปถึงที่อยู่ของพระมเหสีแล้วจะพังประตูห้อง แต่เข้าไม่ได้ จึงฟันประตูห้องอุตลุดจะเข้าไปทำร้ายพระมเหสีให้ได้ ร้อนถึงลูกฉิม ต้องพาแม่หนีภัยออกไปทางหน้าต่าง(๓) แต่นั้นมาแม่รัชกาลที่ ๒ ก็ไม่ยอมอาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านของรัชกาลที่ ๑ อีกจนตายจากกันไป(๔)

4 comments:

Doni said...

อ้างอิง :
ประกอบ โชประการ, ประยุทธ สิทธิพันธ์, สมบูรณ์ คนฉลาด.
หนังสือ ๙ พระมหากษัตริย์ไทยครองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี. กรุงเทพฯ
: วิชัย อังศุสิงห์ หนังสือพิมพ์รวมข่าว 2525.
กระทรวงศึกษาธิการ. กรมวิชาการ. ฉัตรแก้วเก้าแผ่นดิน. กรุงเทพฯ : คุรุสภา 2540

Doni said...

พระราชกรณียกิจสำคัญที่ทรงเริ่มทำเร่งด่วนครั้งแรกคือ การรวบรวมผู้คนที่กระจัดกระจายกันอยู่ตั้งแต่ครั้ง กรุงแตกให้อยู่ตั้งมั่นเพื่อความเป็นปึกแผ่นของประเทศ โดยออกพระราชกำหนดสักเลข และ ทำทะเบียนราษฎรอย่างจริงจัง

Doni said...

ได้ทรงผ่อนผันการเข้าเดือนเหลือเพียงปีละ 3 เดือน คือ เข้าเดือนออก สามเดือน นอกจากนี้ยังได้ทรงออกกฎหมายฉบับสำคัญอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า พระราชกำหนดเรื่องห้าม สูบฝิ่น ขายฝิ่น

Chaiyut said...

การพิจารณาอะไรขอให้ดูสภาพทางสังคมในแต่ละยุคด้วยท่านผู้เขียนตอบผมหน่อยครับว่าทำไมสมัยก่อนพูด กู มึงจึงเป็นเรื่องปรกติ แต่ปัจจุบันกลายเป็นหยาบคายไป